การทำงานด้วยใจ

การทำงานด้วยใจ

ข้อคิดดีๆ น่าแบ่งปัน ไว้ส่งให้ลูกน้องอ่านนะครับ

หวังอวิ๋นเป็นพนักงานสาวที่สวยมาก หล่อนทำงานเกือบสามปีแล้ว เพื่อนพนักงานคนอื่นที่เข้าทำงานที่บริษัทหลังหล่อนต่างก็ทยอยได้โอกาสเลื่อนตำแหน่ง แต่หล่อนยังอยู่ในตำแหน่งเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ในใจหล่อนจึงรู้สึกอึดอัดบอกไม่ถูก




ในที่สุดวันหนึ่ง หล่อนจึงยอมเสี่ยงการถูกเลิกจ้าง เข้าไปหาเจ้าของบริษัทเพื่อถามสาเหตุ “เถ้าแก่คะ ฉันเคยมาสาย กลับก่อนหรือทำผิดระเบียบบริษัทหรือไม่?”
เถ้าแก่ตอบโดยไม่คิดว่า “ไม่เคย”

“งั้นบริษัทมีอคติกับฉันใช่ไหม?” เถ้าแก่ชะงักไปนิดนึง แล้วพูดว่า “ไม่มีแน่นอน”

“แล้วทำไมคนที่ประสบการณ์น้อยกว่าฉันจึงได้รับการเลื่อนตำแหน่ง แต่ฉันกลับอยู่ในตำแหน่งเดิมไม่เปลี่ยนแปลง”

เถ้าแก่อึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วพูดอย่างยิ้มๆ ว่า “เรื่องของเธอเดี๋ยวไว้ค่อยคุยกัน ตอนนี้พอดีฉันมีเรื่องด่วน งั้นเธอลองช่วยฉันจัดการเรื่องนี้ได้ไหม?”

เถ้าแก่บอกว่า “มีลูกค้ารายหนึ่งกำลังจะมาที่บริษัทเพื่อเยี่ยมชมสินค้า เธอไปติดต่อกับพวกเขานะ ถามว่าจะมาเมื่อไร”

“นี่เป็นหน้าที่ที่สำคัญมาก” ก่อนออกไป หล่อนไม่ลืมที่จะพูดกับตัวเอง

ผ่านไปสิบห้านาที หล่อนกลับมาที่ห้องทำงานของเถ้าแก่

“ติดต่อได้ไหม?” เถ้าแก่ถาม

“ติดต่อได้แล้วค่ะ พวกเขาบอกว่าอาจจะมาอาทิตย์หน้า”

“แล้วอาทิตย์หน้าวันที่เท่าไร?” เถ้าแก่ถาม

“อันนี้ฉันไม่ได้ถาม”หวังอวิ๋นตอบ

“แล้วพวกเขาจะมากันกี่คน” เถ้าแก่ถาม

“อ้าว ท่านไม่ได้บอกให้ฉันถามเรื่องนี้นี่คะ” หวังอวิ๋นตอบ

“แล้วพวกเขามารถไฟหรือเครื่องบิน?” เถ้าแก่ถาม

“เรื่องนี้ท่านก็ไม่ได้บอกให้ฉันถามนี่คะ” หวังอวิ๋นตอบ

เถ้าแก่ไม่พูดอะไรอีก เขาโทรศัพท์เรียกจางอี๋เข้ามา จางอี๋ทำงานที่บริษัทหลังหล่อนหนึ่งปี ตอนนี้เป็นผู้รับผิดชอบของแผนกหนึ่ง จางอี๋ได้รับการมอบหมายหน้าที่เหมือนกับที่เมื่อครู่หล่อนได้รับ สักพักหนึ่ง จางอี๋ก็กลับมา

“เป็นอย่างนี้ค่ะ............” จางอี๋ตอบ “พวกเขาจะนั่งเครื่องบินเที่ยวบ่ายสามโมงของวันศุกร์หน้ามาค่ะ คาดว่าจะมาถึงตอนค่ำหกโมง พวกเขาจะมากันห้าคน นำทีมโดยผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อชื่อคุณหวัง ฉันได้บอกพวกเขาแล้วว่า บริษัทของเราจะส่งคนไปรับพวกเขาที่สนามบิน”

“นอกจากนั้น พวกเขาวางแผนที่จะมาเยี่ยมชมบริษัทสองวัน ส่วนรายละเอียดเมื่อมาถึงแล้วทั้งสองฝ่ายค่อยปรึกษากัน และเพื่อให้สะดวกกับการทำงาน ฉันเสนอให้พวกเขาพักที่ International Hotel ที่อยู่ใกล้ๆ บริษัท ถ้าท่านเห็นด้วย พรุ่งนี้ฉันจะจองเรื่องห้องพักไว้ล่วงหน้า”

“ยังมีค่ะ พยากรณ์อากาศบอกว่าอาทิตย์หน้าจะมีฝนตก ฉันจะคงการติดต่อกับพวกเขาตลอดเวลา ถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลง ฉันจะรายงานท่านทันที”

หวังอวิ๋นที่ดูอยู่ข้างๆรู้สึกอายจนหน้าแดง เดินออกจากห้องทำงานไปโดย ไม่พูดอะไรอีก

คืนนั้น หล่อนได้รับ message จากเถ้าแก่ดังนี้

หวังอวิ๋น ไม่ว่าเธอจะทำงานที่ไหน ขอให้จดจำกฎทองเหล่านี้เอาไว้

1: งานจะไม่เลี้ยงดูคนที่ว่าง ทีมงานจะไม่เลี้ยงดูคนที่ขี้เกียจ

2: การเข้าทำงานใดก็ตาม ก่อนอื่นอย่าได้นึกแต่ว่าจะได้รายได้ ให้เรียนรู้ก่อนว่าจะทำให้ตนเองมีคุณค่าได้อย่างไร

3: ไม่มีเงินจากธุรกิจใดๆ ที่หาได้โดยง่าย

4: การทำงาน ไม่มีงานไหนๆที่จะราบรื่นไปทั้งหมด ได้รับความคับข้องใจบ้างเป็นเรื่องธรรมดา

5: ไม่ได้รายได้ ก็ได้ความรู้ ไม่ได้ความรู้ ก็ได้ประสบการณ์ ไม่ได้ประสบการณ์ ก็ได้ความโชกโชน เมื่อสิ่งข้างต้นล้วนได้แล้ว ก็ไม่มีวันที่จะหาเงินไม่ได้

6 : มีเพียงการเปลี่ยนแปลงท่าทีของตนเองก่อน จึงจะสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตให้สูงขึ้น มีเพียงการเปลี่ยนแปลงท่าทีของการทำงานก่อน จึงจะสามารถมีอาชีพที่สูงขึ้น

7 : สาเหตุที่ทำให้คนเราเลอะเลือนเวิ้งว้างมีเพียงอย่างเดียว----นั่นก็คือในอายุที่ควรดิ้นรนต่อสู้ กลับคิดมากไป ทำน้อยไป

ขอมอบคำสามคำไว้ให้ : ตั้งใจทำ
หล่อนจึงได้เข้าใจโดยฉับพลันว่า ไม่มีใครหรอกที่เกิดมาก็สามารถรับผิดชอบงานใหญ่ ล้วนต้องทำโดยเริ่มจากงานเล็กๆที่เรียบง่ายและธรรมดา วันนี้ตัวเธอติดฉลากให้กับตนเองอย่างไร อาจบางทีก็จะกำหนดได้ว่าวันพรุ่งนี้ตัวเธอจะได้รับมอบหมายให้ทำงานใหญ่ได้หรือไม่

ระดับความเอาใจใส่จะส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของการทำงานโดยตรง บริษัทใดๆก็ตามล้วนอยากได้พนักงานที่ทำงานกระตือรือร้นและมีความรับผิดชอบในงานได้ด้วยตัว เอง

พนักงานที่ดีเด่นมักไม่ใช่คนที่เอาแต่รอให้คนอื่นมอบหมายงานให้ แต่เป็นคนที่ไปทำความใจด้วยตัวเองว่าควรทำอะไร หลังจากนั้นก็ทำงานนั้นให้ลุล่วงอย่างเต็มกำลัง


Jack Ma เคยพูดไว้ว่า

คนสิบประเภทที่จะไม่ได้เงินเดือนสูง ยิ่งไม่คุ้มค่าที่จะอุ้มชู

หนึ่ง : คนที่คิดแต่อยากได้หยุดสัปดาห์ละสองวัน

สอง : คนที่คิดแต่จะเข้างานเก้าโมงเช้าเลิกงานห้าโมงเย็น

สาม : คนที่คิดแต่จะใช้ชีวิตอยู่ด้วย basic salary

สี่ : คนที่จิตใจไม่มีความมุ่งหมาย

ห้า : คนที่ไม่มีความคิดที่ก้าวไปข้างหน้าตามกาลเวลา

หก : คนที่ทำงานเฉื่อยชา

เจ็ด : คนที่เป็นคนความประพฤติไม่เที่ยงตรง

แปด : คนที่ไม่กล้ารับผิดชอบ

เก้า : คนที่มักคิดว่าตนเองมีค่าสูงเกินเกินไป

สิบ : คนที่มักตำหนิว่าบริษัทไม่ดีพอ


ผู้ที่ก่อตั้งบริษัท Huawei กล่าวว่า : มีคนมากมายที่ถามผมว่า มาทำงานที่บริษัทมีหยุดอาทิตย์ละสองวันหรือไม่? จำเป็นต้องทำงานล่วงเวลาไหม?

ฉันยิ้มๆไม่ตอบ และเชิญพวกเขาให้ออกจากบริษัทอย่างสุภาพ

อยากสบาย ยังจะออกมาทำงานทำไม?

นอนขลุกอยู่แต่ที่บ้านก็ไม่ใช่ได้หยุดทั้งเจ็ดวันแล้วหรือ?

คนเรานั้น ถ้าไม่ถือโอกาสขยันตอนอายุยังน้อย ความหนุ่มสาวของเธอจะมีประโยชน์อะไร?

กล่าวกันว่าวัยหนุ่มสาวก็คือต้นทุน สิ่งที่ฉันอยากจะเพิ่มเติมก็คือ มีเพียงการต่อสู้บากบั่น ต้นทุนของเธอจึงจะมีคุณค่า มีเพียงการดิ้นรนต่อสู้ ความหนุ่มสาวของเธอจึงจะควรค่าแก่การเชิดชู

พอเอ่ยปากก็พูดว่าลำบาก ความเจริญก้าวหน้าก็ออกห่างเธอแล้ว

พอทำออกไปก็คิดถึงแต่ผลตอบแทน โอกาสก็ออกห่างเธอแล้ว

พอทำงานก็คิดแต่ประโยชน์ส่วนตัว ผลเก็บเกี่ยวที่จะได้ก็ออกห่างเธอแล้ว

พอเริ่มต้นก็คิดแต่จะพูดถึงเงื่อนไข อนาคตความก้าวหน้าก็ออกห่างเธอแล้ว

พอร่วมมือทำงานกันก็คิดแต่ว่าตนเองจะไม่เสียเปรียบได้อย่างไร ความสำเร็จของธุรกิจก็ออกห่างเธอแล้ว

ความคิดเห็น